ทุกวันนี้ถ้าเราไปเดินตลาดสิ่งแรกเลยเรามักจะเห็นเขียงเนื้อหมู ไก่ ปลา โดยเฉพาะปลา ที่แหวกว่ายอยู่ในถังรอความตายเพื่อสนองกระเพราะน้อยๆของคนเรา ซึ่งถ้ามองในแง่ของคนทั่วไปจ่ายตลาด ก็มองเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ถ้ามองในแง่ของคนถือศีล บำเพ็ญธรรม มันจะดูโหดร้ายมาก หลายๆคนอาจเคยได้ยินคำว่า “ชีวิต แลกชีวิต” มันคุ้มกันแล้วหรอกับการสังเวยชีวิตหนึ่ง เพื่อต่อยอดให้กับชีวิตหนึ่ง จริงอยู่ในศาสนาพุทธนั้นไม่ได้บอกว่าการทานเนื้อสัตว์มันเป็นบาป แต่นั่นด้วยก็เพราะ พระพุทธองค์ท่านทรงรู้ว่า จะให้บอกไปตรงๆแบบนั้น คนในสมัยนี้คงจะยอมรับไม่ได้แน่นอน ท่านก็เลยบอกทางอ้อมว่า “ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต” ซึ่งอยู่ในศีลข้อแรกเลย ลองคิดตามว่าถ้าเราไม่ซื้อแล้ว ใครที่ไหนเลยจะฆ่ามาขาย เราในฐานะผู้ซื้อก็เปรียบได้กับผู้ว่าจ้างมือปืนไปยิงใครต่อใครนั่นเองครับ
ดังนั้นเพื่อเป็นการลดกรรม เราจึงควรหันมาทานผักผลไม้ ซึ่งมีอยู่อย่างมากมายในเมืองไทย ในราคาที่ไม่แพง ซึ่งนับว่าเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ทรงคุณค่าที่ผืนแผ่นดินได้มอบมาให้กับเราอย่างแท้จริง และจะไม่ก่อให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บที่จะตามมาในภายหลังด้วยครับ ดังนั้นเรามาเริ่มตั้งแต่วันนี้หันมาทานเจ เฉพาะวันคล้ายวันเกิด วันพระ วันหยุด ก่อนแล้วหลังจากนั้นพอรู้ตัวว่าตัวเองมีสุขภาพแล้วจะหันมาทานไปทุกวันก็ไม่เสียหายอะไร แถมสุขภาพดีซะอีก จริงไหมล่ะครับ.....
